10 ปัจจัยที่ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง พร้อมวิธีแก้ไข

0
232
10-ปัจจัยที่ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง-พร้อมวิธีแก้ไข

10 ปัจจัยที่ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง พร้อมวิธีแก้ไข

10 ปัจจัยที่ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง พร้อมวิธีแก้ไข ร่างกายของมนุษย์เรานั้นจะมีภูมิคุ้มกันที่ทำหน้าเสมือนเกราะช่วยในการยับยั้งและป้องกันเชื้อโรค

สิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ให้เข้าสู่ภายในร่างกายได้โดยง่าย ซึ่งระดับภูมิคุ้มกันหรือประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันนั้นสามารถเพิ่มขึ้นและอ่อนแอลงได้ โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆรอบตัวในแต่ละคนค่ะ

โดยปัจจัยที่ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง 10 ข้อนั้นมีดังนี้

มลภาวะ-1

1. มลภาวะ โดยมลภาวะที่พบได้บ่อยเช่นมลภาวะทางอากาศจากฝุ่นควันหรือควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ที่ฟุ้งกระจายในอากาศนั้นล้วนปนเปื้อนไปด้วยเชื้อโรคและสิ่งที่มาไม่เห็น

อีกทั้งสภาพสิ่งแวดล้อมไม่สะอาด ปลอดโปร่ง หรือ มีออกซิเจนน้อย ยังทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง

โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 เมื่อเข้าสู่ระบบเลือดจะทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระซึ่งส่งผลให้เกิดการอักเสบและเพิ่มภาระให้กับระบบภูมิคุ้มกันทำงานหักมากขึ้นได้ค่ะ

อาหาร

2. อาหาร การทานอาหารที่เป็นโทษต่อระบบภูมิคุ้มกันอย่าง อาหารไขมันสูง น้ำตาลสูง และอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค

หากมีการรับประทานในปริมาณมากๆ จะยิ่งเร่งให้ประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปที่มีสารอาหารไม่ครบถ้วน ไม่สดใหม่

อีกทั้งยังใช้สารเคมีในการถนอมอาหาร จะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันให้อ่อนแอลงมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

อาหารรสหวาน-1

3. อาหารรสหวาน ใครที่ชอบทานอาหารรสหวานต้องเบาๆหน่อยแล้วนะคะ เพราะว่ารสชาติหวานในอาหารต่างๆนั้นได้มาจากน้ำตาล

ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพลดลง เพราะน้ำตาลจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวลดลง

อีกทั้งเมื่อทานน้ำตาล 100 กรัม ร่างกายจะต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมง หลังจากนั้นในการทำลายเชื้อแบคทีเรียและสิ่งแปลกปลอมค่ะ

คุณอาจสนใจเรื่องนี้ : อาหารสร้างภูมิคุ้มกัน

ภาวะเครียด-1

4. ภาวะเครียด ความเครียดนอกจากจะทำให้สุขภาพจิตเสียแล้วยังส่งผลต่อภูมิคุ้มกันได้อีกด้วยนะ เพราะเมื่อเกิดภาวะเครียดประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันจะลดลงเกือบทั้งหมดและยังลดการเสริมสร้างเม็ดเลือดขาว ลดประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาวในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมอีกด้วยค่ะ

ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ

5. ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ น้ำเป็นสิ่งที่คู่กับร่างกายของอย่างขาดไม่ได้เพราะร่างกายของเราส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยน้ำถึงร้อย 70 %

โดยน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์ต่างๆ ถ้าร่างกายขาดน้ำประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ก็จะลดลงรวมถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย

ซึ่งจะสังเกตได้ว่าหากเราไม่สบาย แพทย์จะแนะนำให้เราดื่มน้ำให้มากขึ้นนั่นเองค่ะ

พักผ่อนไม่เพียงพอ

6. พักผ่อนไม่เพียงพอ การพักผ่อนจะช่วยให้เซลล์ต่างๆทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน

อีกทั้งเมื่อร่างกายมีการพักผ่อนที่เพียงพอจะมีการหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกายซึ่งส่งผลให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยบ่อยได้อีกด้วยนะคะ

น้ำหนักตัว

7. น้ำหนักตัว การมีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน จะทำให้ฮอร์โมนภายในร่างกายขาดความสมดุลและมีอาการอักเสบได้ง่าย และยังมีผลการศึกษาที่พบว่าผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดร้ายแรง

ผู้ที่มีน้ำหนักตามมาตรฐานจะมีระดับภูมิต้านทานและประสิทธิภาพที่ดีกว่าในผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานค่ะ

ตัวยาบางชนิด

8. ตัวยาบางชนิด การทานยาบางชนิดบางครั้งก็เป็นสาเหตุให้ระดับภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงได้นะคะอย่างเช่น ยาเคมีบำบัดสำหรับรักษาโรคมะเร็ง

ซึ่งจะมีผลข้างเคียงในการเข้าไปกดเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายอ่อนแอไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคได้และติดเชื้อได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การใช้สารสเตียรอยด์ยังให้ประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวลดลงอีกด้วยค่ะ

ขาดการออกกำลังกาย

9. ขาดการออกกำลังกาย เพื่อนๆรู้ไหมค่ะว่าการออกกำลังกายนั้นนอกจากจะเสริมสร้างกล้ามเนื้อแล้วยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกสดชื่นและช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรงและมีประสิทธิภาพขึ้นได้อีกด้วยนะคะ

ติดเชื้อไวรัส

10. ติดเชื้อไวรัส ไวรัสบางชนิดจะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยเฉพาะ ไวรัส HIV หรือเชื้อเอดส์ ซึ่งจะเข้าไปอาศัยภายในเม็ดเลือดขาว ส่งผลให้เม็ดเลือดขาวไม่สามารถทำหน้าที่ต่อต้านเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่างๆได้ค่ะ

ระดับภูมิคุ้มอ่อนแอลงสามารถแก้ไขได้ด้วย 5 วิธีง่ายๆ ดังนี้

ลดความเครียดลงบ้าง

1. ลดความเครียดลงบ้าง ความเครียดมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันอย่างมาก หากเราเครียดจะมีการหลั่งฮอร์โมนที่มีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ดังนั้นควรทำจิตใจให้ผ่องใส ฝึกสมาธิ หรือหากิจกรรมที่ทำแล้วรู้สึกสบายใจเช่น เล่นดนตรี เล่นกีฬา หาของอร่อยๆทาน หรือ พบปะเพื่อนๆบ่อยขึ้นก็จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ

นอนให้เร็วขึ้น

2. นอนให้เร็วขึ้น การนอนไม่พอส่วนใหญ่จะมีปัญหามาจากการนอนดึก เพื่อนๆต้องหักมานอนหลับให้เร็วขึ้น โดยมีผลวิจัยพบว่า คนที่นอนหลับคืนละ 8 ชั่วโมงติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน จะมีการเสริมสร้าง แอนติบอดี ที่เป็นเซลล์ในระบบภูมิต้านทาน ได้ดีกว่าคนที่นอนหลับเพียงคืนละ 4 ชั่วโมง มากถึง 50 % ค่ะ

ดื่มน้ำให้มากขึ้น

3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวัน 8 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยในการเพิ่มสารคัดหลั่งและความชุมชื้นให้กับเยื่อบุผิวในท่อทางเดินหายใจส่วนบน

ซึ่งช่วยในการป้องกันและดักจับฝุ่นละอองเชื้อโรคต่างๆไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย อีกทั้งเมื่อร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงยังช่วยให้เซลล์ต่างๆมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

ออกกำลังกายสม่ำเสมอขึ้น

4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอขึ้น การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยในการขับของเสียต่างๆออกทางเหงื่อได้อีกด้วย และนอกจากนั้นยังเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนเลือด ทำให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรงสามารถยับยั้งเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้นค่ะ

ทานสารอาหารที่สำคัญ

5. ทานสารอาหารที่สำคัญ นอกจากการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แล้ว ควรมีการทานอาหารที่ให้สารสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น

โดยเฉพาะอาหารที่ให้ เบต้าแคโรทีน ซิลีเนียม วิตามินซี วิตามินอี และ วิตามินบีสูง เพราะจะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้ดีขึ้นได้ค่ะ

รีวิว-นาบี-กลูต้าและวิตามินซี-ผิวขาว-ที่ดีที่สุด

NABI GLUTA VIT C PLUS “นาบี กลูตา วิตซี พลัส” วิตามินซีเข้มข้นที่สกัดจากส้มสีเลือดที่ให้ปริมาณวิตามินซีสูงมากกว่าส้มทั่วไป มีส่วนช่วยในการยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุให้เซลล์ต่างๆเกิดการเสื่อมสภาพ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

อีกทั้งยังช่วยให้กระบวนการผลิตคอลลาเจนมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ป้องกันผิวพรรณจากแสงแดดได้ดี ลดการเกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ ทำให้ผิวพรรณดูกระจ่างใสอ่อนเยาว์ขึ้นได้อีกด้วยนะคะ