10 อาหารช่วยสร้างเสริมระดับภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น
10 อาหารช่วยสร้างเสริมระดับภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น “ภูมิคุ้มกัน” เป็นกระบวนการในการปกป้อง ร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคต่างๆอย่าง ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรียและปรสิต ที่จะบุกรุกเข้าสู่ร่างกาย แต่หากร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำเชื้อโรคต่างๆก็เข้าสู่ร่างกายได้โดยง่าย ส่งผลให้มีการเจ็บป่วยได้บ่อยๆ
ดังนั้นเพื่อเป็นป้องกันตัวเองจากสถานการณ์ที่ ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง โดยไม่ปลอดภัยเช่นนี้ การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับภูมิคุ้มกันจึงถือเป็นด่านแรกที่สำคัญในการปกป้องร่างกายให้ห่างไกลจากเชื้อโรคต่างๆค่ะ
ภูมิคุ้มกันในร่างกายสามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. ภูมิคุ้มกันแบบปฐมภูมิ เป็นภูมิคุ้มกันชั้นนอกสุดซึ่งป้องกันในรูปแบบกายวิภาค โดยอวัยวะที่เป็นระบบภูมิคุ้มกันรูปแบบปฐมภูมิ นั้นได้แก่ ผิวหนัง ขนตามจุดต่างๆ อีกทั้งเมือกและเยื่อต่างๆที่อยู่ตามผิวหนังของอวัยวะถือว่าเป็นภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะค่ะ
2. ภูมิคุ้มกันแบบทุติยภูมิ เป็นภูมิคุ้มกันที่ต้องมีการกระตุ้นโดยสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อจุลินทรีย์ที่พยายามบุกรุกเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งแบ่งตามอหล่งที่มาได้เป็น 2 ประเภทดังนี้
- ภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด เป็นระบบภูมิคุ้มกันที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดซึ่งพร้อมทำงานได้ตลอดเวลา เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อจุลินทรีย์เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งมีหน้าที่ในการย่อยทำลายสิ่งแปลกปลอมโดยอาศัยเม็ดเลือดขาวในกลุ่มฟาโกไซต์ เป็นตัวช่วยค่ะ
- ภูมิคุ้มกันที่ได้รับมาภายหลัง เป็นภูมิคุ้มกันที่ต่อเนื่องมาจากภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด ซึ่งเกิดขึ้นจากสิ่งแปลกปลอมหรือมีการได้รับวัคซีนกระตุ้นแบบเจาะจงและมีการจำลักษณะของสิ่งกระตุ้นไว้ เมื่อร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมนั้นอีกครั้งร่างกายจะตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและสามารถสร้างแอนติบอดีได้ทันท่วงทีค่ะ
โดยอาหารที่สามารถช่วยสร้างเสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น 10 อย่างมีดังนี้
1. พริกหวาน วิตามินซีในพริกหวานจะช่วยในการกระตุ้นการผลิตสารที่จำเป็นต่อการทำงานของภูมิคุ้มกัน ป้องกันเชื้อเข้าสู่ร่างกายและนอกจากนี้ยังช่วยในการป้องกันอาการภูมิแพ้กำเริบ โรคไขข้ออักเสบ โรคมะเร็ง และบำรุงรักษาเซลล์ภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพดีอีกด้วยค่ะ
2. เห็ดต่างๆ พอลิแซ็กคาไรด์ในเห็ดจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีความตื่นตัวพร้อมที่จะทำงาน อีกทั้งช่วยในการป้องกันโรคเอดส์ โรคมะเร็ง โรคซารส์ บำรุงร่างกายให้สุขภาพดีแข็งแรงขึ้นได้ด้วยค่ะ
3. ภูมิคุ้มกัน กับ หอมหัวใหญ่ หอมหัวใหญ่นั้นอุดมไปด้วยซัลเฟอร์ที่ทำให้ T cell และ Macrophage cells มีการตื่นตัวมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยเพิ่มจำนวนเอ็นเคเซลล์
การทานหอมหัวใหญ่ยังช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ ป้องกันอาหารเป็นพิษอีกทั้งช่วยในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วยค่ะ
4. โยเกิร์ต ในโยเกิร์ตนั้นอุดมไปด้วยกรดแลคติกที่มีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนสารภูมิต้านทานและกระตุ้นเอ็นเคเซลล์ให้ตื่นตัว อีกทั้งควบคุมเชื้อแบคทีเรียที่ให้โทษแก่ร่างกาย ลดความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วย ป้องกันเชื้อโรคภายในลำไส้ โรคภูมิแพ้ โรคมะเร็งและโรคซารส์ค่ะ
5. ภูมิคุ้มกันดีด้วยผลไม้จากธรรมชาสติ อย่าง มะละกอ ผลไม้บ้านๆที่มีสาระสำคัญอย่างสารแคโรทีน ที่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ที่ช่วยในการบำรุงผิวพรรณและเนื้อเยื่อให้แข็งแรงขึ้น
นอกจากนี้ยังป้องกันเชื้อเข้าสู่ร่างกาย บรรเทาอาการไข้หวัด ป้องกันโรคมะเร็ง ไข้ข้ออักเสบ
6. แครอท เป็นผักที่มีวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งช่วยในการบำรุงผิวหนังและเยื่อเหมือกให้แข็งแรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาอาการบาดเจ็บของร่างกาย ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นค่ะ
7. เก๋ากี้ หรือ โกจิเบอร์รี่ นั้นมีสารพอลิแซ็กคาไรด์ ที่เป็นสารสำคัญในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ภูมิคุ้มกันให้มีความพร้อมในการต่อต้านเชื้อโรคต่างๆมากขึ้นและช่วยบำรุงซ่อมแซมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดีขึ้นอีกทั้งมีส่วนช่วยในการรักษาโรคมะเร็งและโรงเอดส์ได้อีกด้วยนะคะ
8. ชีส มีวิตามินดีและกรดอะมิโนที่เป็นตัวช่วยในการปรับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายสูง อีกทั้งยังสามารถป้องกันไม่ให้เซลล์ดีกล้ายพันธุ์เป็นเซลล์ร้าย กระตุ้นเซลล์ร้ายให้มีการสลายตัวเอง นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงดูแลเซลล์กล้ามเนื้อที่สึกหรอ
9. มะระขึ้นก มะระอาจเป็นอาหารที่ใครๆหลายคนไม่นิยมทานด้วยราชาติที่ขมของมัน แต่ทราบไหมค่ะว่าสารควินินในมะระเป็นสารสำคัญที่ช่วยในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและจำเป็นต่อผู้ที่เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ป้องกันโรคมะเร็ง โรคปอด บรรเทาอาการไข้หวัด แถมยังช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระต่างๆได้ดีอีกด้วยค่ะ
10. เนื้อทูน่า เนื้อของปลาทูน่านั้นอุดมไปด้วยกรดโอเมก้า 3 แมงกานีส สังกะสี และซิลีเนียม ซึ่งช่วยในการสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ลดอาการอักเสบ
ลดความเสี่ยงโรคแพ้ภูมิต้านทานตัวเองอีกทั้งช่วยในการป้องกันโรคต่างๆอย่างเช่น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และหัวใจวายได้อีกด้วยค่ะ